ซนไม่ไหว สงสัยต้องพาไปกินข้าววัด สุนัขของคุณซนเกินไปหรือเป็นเพราะเราไม่เข้าใจพฤติกรรมของน้องกันนะ

image

ซนไม่ไหว สงสัยต้องพาไปกินข้าววัด สุนัขของคุณซนเกินไปหรือเป็นเพราะเราไม่เข้าใจพฤติกรรมของน้องกันนะ

หนึ่งในปัญหาสุนัขเร่รอนในประเทศไทยไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงไม่หมดไปจากสังคมไทยซักที แม้จะมีมาตรการในการจัดการมากแค่ไหนแต่เราก็ยังคงเห็นข่าวหรือคลิปวิดีโอที่มีคนทำร้าย ทารุณหรือนำสุนัขมาปล่อยตามข้างทาง หรือวัดอยู่เสมอ 

ทำไมการเข้าใจถึงพลังงานที่มีอยู่ในตัวสัตว์เลี้ยงถึงทำให้เจ้าของสัตว์และสัตว์ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและส่งผลกระทบกับปัญหาสุนัขจรจัดในประเทศไทยได้อย่างไร

วันนี้ PET POB PAD (เพ็ท พบ แพทย์) ชวนทุกท่านมาทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของน้องหมาก่อนที่จะเลือกตัดสินใจรับน้องมาเลี้ยง

สุนัขเป็นสัตว์ที่เต็มไปด้วยพลังงานและความกระตือรือร้น ไม่ว่าจะเป็นสุนัขพันธุ์เล็กหรือพันธุ์ใหญ่ พลังงานในตัวของพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้สุนัขเป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมและมีชีวิตชีวา อย่างไรก็ตาม การจัดการกับพลังงานเหล่านี้อาจเป็นความท้าทายสำหรับเจ้าของสุนัขที่ต้องการให้สุนัขของตนมีพฤติกรรมที่เหมาะสมและสงบสุข แน่นอนว่าหากสุนัขไม่ได้ปลดปล่อยพลังงานที่มีอยู่ในตัวออกมาก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียด ความหงุดหงิด และสุดท้ายสุนัขก็จะปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านั้นออกมาผ่านการระบายอารมณ์จากสิ่งของที่มีอยู่ภายในบ้านของคุณ เช่น โซฟา หมอน หรือเครื่องใช้ต่างๆ 

ทำไมสุนัขถึงมีพลังงานมาก?

สุนัขมีพลังงานตามธรรมชาติซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย:

  • พันธุ์: สุนัขบางพันธุ์เช่น บอร์เดอร์คอลลี่ หรือ แจ็ครัสเซลล์ เทอร์เรีย มีพลังงานสูงกว่าสุนัขพันธุ์อื่น ๆ เนื่องจากเป็นสุนัขที่ถูกพัฒนามาให้ทำงานหรือออกกำลังกายหนัก
  • อายุ: สุนัขที่ยังเป็นลูกสุนัขหรือวัยรุ่นมักจะมีพลังงานมากกว่าสุนัขที่มีอายุมาก
  • สุขภาพและอาหาร: การได้รับอาหารที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการช่วยส่งเสริมพลังงานที่เหมาะสมในสุนัข

การจัดการพลังงานของสุนัข

เพื่อให้สุนัขของคุณมีพฤติกรรมที่ดีและลดความกระตือรือร้นเกินไป การจัดการพลังงานในชีวิตประจำวันของสุนัขเป็นสิ่งสำคัญ

นี่คือเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณรับมือกับพลังงานในตัวของสุนัขได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

  1. ออกกำลังกายเป็นประจำ 

    • การพาสุนัขไปเดินเล่น วิ่ง หรือเล่นเกมที่ใช้พลังงาน เช่น การขว้างลูกบอลหรือการเล่นดึงเชือก เป็นวิธีที่ดีในการระบายพลังงานของสุนัข
    • ควรพาสุนัขออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงต่อวัน ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละพันธุ์

  1. ฝึกการเชื่อฟังคำสั่ง 

    • การฝึกสุนัขให้รู้จักคำสั่งพื้นฐาน เช่น "นั่ง" "รอ" หรือ "มานี่" ช่วยให้สุนัขมีสมาธิและสามารถควบคุมพฤติกรรมของตนเองได้ดีขึ้น
    • การฝึกฝนเป็นกิจกรรมที่ใช้พลังงานทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งช่วยลดความกระตือรือร้นเกินไปได้
  2. กิจกรรมที่ใช้สมอง 

    • การใช้ของเล่นที่ช่วยกระตุ้นสมอง เช่น ของเล่นใส่อาหาร หรือเกมซ่อนหา ช่วยให้สุนัขใช้พลังงานทางจิตใจ และช่วยลดความเบื่อหน่าย
    • การฝึกทักษะใหม่ ๆ หรือการให้สุนัขทำงานเล็ก ๆ เช่น เก็บของหรือค้นหาสิ่งของที่ซ่อนอยู่ ก็เป็นวิธีที่ดีในการใช้พลังงาน
  3. การเข้าสังคม 

    • การพาสุนัขไปพบเจอสุนัขตัวอื่นหรือคนอื่น ๆ ช่วยให้สุนัขเรียนรู้การเข้าสังคมและระบายพลังงานทางสังคมได้
    • ควรจัดเวลาพาสุนัขไปพบเจอสถานที่ใหม่ ๆ หรือเล่นกับสุนัขตัวอื่นอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
  4. การสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในบ้าน 

    • ให้สุนัขมีพื้นที่ที่สามารถเคลื่อนไหวและเล่นในบ้านได้อย่างปลอดภัย รวมถึงการมีของเล่นที่หลากหลายเพื่อให้สุนัขไม่รู้สึกเบื่อ
    • สร้างมุมสงบให้สุนัขได้พักผ่อนเมื่อเขาต้องการ เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสงบ

เห็นได้ชัดเจนเป็นอย่างยิ่งเลยว่า ไม่เพียงแต่ต้องการอาหาร และที่อยู่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่สุนัขเองก็ต้องการเวลาที่ให้เค้าได้ปลดปล่อยพลังออกมา การดูแลเอาใจใส่ รวมถึงสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอีกด้วย Pet Pob Pad หวังว่าใครที่กำลังเลี้ยงสัตว์อยู่หรือคิดที่จะเริ่มรับน้องหมาเข้ามาเลี้ยงจะเข้าใจในพฤติกรรมของน้องๆมากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาสุนัขจรจัดในประเทศมากขึ้น