เราควรให้อาหารสุนัขวันละเท่าไหร่
เราควรแบ่งมื้อให้สุนัขในแต่ละช่วงวัยต่างกันไป ดังนี้
- ลูกสุนัข 2-3 เดือน ควรแบ่งให้อาหารวันละ 3-4 มื้อ
- ลูกสุนัข 4-5 เดือน ควรแบ่งให้อาหารวันละ 2-3 มื้อ
- สุนัขโต 6 เดือนขึ้นไป ควรแบ่งให้อาหารวันละ 1-2 มื้อ
- สุนัขอายุมากกว่า 8 ปีขึ้นไป ควรให้อาหารวันละ 1 มื้อ
ทำไมสุนัขเด็กจึงกินได้หลายมื้อ? แต่สุนัขที่ยิ่งโตกลับยิ่งแบ่งมื้อน้อยลง?
สุนัขที่อยู่ในวัยกำลังโตมีร่างกายที่แอคทีฟอยู่ตลอดเวลามากกว่าสุนัขที่โตเต็มวัยหรือสุนัขที่แก่แล้ว อีกทั้งร่างกายและระบบย่อยอาหารยังสามารถดูดซึมสารอาหารได้ดีกว่าอีกด้วย ดังนั้นการแบ่งให้รับประทานอาหารหลายมื้อสำหรับลูกสุนัขจึงมีข้อดีที่มากกว่า ดังนี้
- ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น: การแบ่งอาหารหลายมื้อจะช่วยให้สุนัขย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น
- ป้องกันการท้องอืด: การกินอาหารมื้อใหญ่ๆ ทีเดียวอาจทำให้สุนัขท้องอืดได้
แต่ที่ต้องระวังเป็นสำคัญเลยก็คือ ปริมาณอาหารที่ให้ในแต่ละมื้อหรือแต่ละวันต้องไม่มากเกินไปหรือน้อยจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาโรคอ้วนหรือโรคขาดสารอาหารตามมาในภายหลังได้
ถ้าอย่างนั้นแล้ว เราควรให้อาหารในปริมาณกี่กรัมจึงจะพอดี?
สุนัขเองก็ไม่ต่างจากมนุษย์อย่างเรา การจะคำนวนว่าน้องควรกินวันละเท่าไหร่ต้องดูจากหลายปัจจัย ดังนี้
- อายุ สุนัขที่เลี้ยงอยู่มีอายุกี่ปี อยู่ในวัยใด เช่น สุนัขกำลังโต สุนัขโตเต็มวัย สุนัขอายุเยอะ
- สายพันธุ์ สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีนิสัย ถิ่นกำเนิด และระดับการเผาผลาญพลังงานแต่ละวันที่แตกต่างกัน
- น้ำหนัก ปัจจุบันน้ำหนักตัวอยู่ที่เท่าไหร่
- กิจวัตรในแต่ละวัน หมั่นสังเกตุว่าในแต่ละวันสุนัขมีความแอคทีฟมากน้อยเพียงใด มีการวิ่งเล่นทั้งวันหรือเพียงแค่นั่งกับนอน โดยจะแบ่งเป็นสามระดับคือ แอคทีฟน้อย แอคทีฟปานกลาง และแอคทีฟมาก
โดยวันนี้ Pet Pob Pad มีตารางเฉลี่ยการให้อาหารสุนัขแบบคร่าวๆมาให้ทุกท่านด้วย
- ลูกสุนัขอายุ 2-3 เดือน มีน้ำหนักไม่เกิน 2-7 กิโล ควรได้รับอาหารวันละ 60 - 350 กรัมต่อวัน
- ลูกสุนัขอายุ 4-5 เดือน มีน้ำหนักไม่เกิน 7-14 กิโล ควรได้รับอาหารวันละ 400 - 800 กรัมต่อวัน
- สุนัขโตอายุ 1-2 ปี มีน้ำหนักไม่เกิน 20-30 กิโล ควรได้รับอาหารวันละ 600 - 900 กรัมต่อวัน
- สุนัขโตอายุ 3-7 ปี มีน้ำหนักไม่เกิน 20-30 กิโล ควรได้รับอาหารวันละ 500 - 700 กรัมต่อวัน
อย่าลืมว่าตารางการให้อาหารที่ Pet Pob Pad ได้แจกไว้ให้ในด้านบนเป็นเพียงแค่การคำนวนเพียงคร่าวๆเท่านั้น สุนัขแต่ละตัวมีความแตกต่างกัน ทั้งสายพันธุ์ เพศ อายุ การทำกิจกรรมในแต่ละวัน รวมไปถึงโรคประจำตัวอีกด้วย หากอยากรู้ว่าสารอาหารที่สุนัขของคุณต้องการใน 1 วันมีปริมาณเท่าไหร่ควรปรึกษาสัตวแพทย์หรือนักโภชนาการสัตว์